ดูหนังใหม่
poster
5.9

ตาโขน

เรื่องย่อ

เมื่อพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ถูกบดบังด้วยเงามืดแห่งคำสาป ‘จ่อย’ ต้องหวนคืนสู่บ้านเกิดเพื่อตามหาน้องสาวที่หายตัวไปท่ามกลางงานบุญหลวง ทว่าสิ่งที่เขาค้นพบไม่ใช่เพียงร่องรอยของผู้สูญหาย แต่คือความลับของตระกูลศรีพันตาและการละเมิดกฎเหล็กในการสร้างหน้ากากผีตาโขนที่นำมาซึ่งบทลงทัณฑ์อันน่าสะพรึงกลัว เขาต้องเลือกระหว่างศรัทธาที่ยึดถือกับความจริงตรงหน้าที่โหดร้าย ในบทพิสูจน์ที่เดิมพันด้วยชีวิตและจิตวิญญาณ

ผู้กำกับ มิ ภูวดล เนาว์โสภา
นักแสดงนำ มอสหลง ภาณุวัฒน์ ,แม่นกน้อย อุไรพร
เสียง TH / ENG
Release Date 20 พฤศจิกายน 2568

รีวิวและข้อมูลเชิงลึก

ดูหนัง ตาโขน เป็นเรื่องราวของ ‘จ่อย’ หนุ่มด่านซ้ายที่ดิ้นรนหาเงินพาน้องสาวหูหนวกไปผ่าตัดเพื่อหนีจากบ้านเกิดและตระกูลที่ตัวเองเกลียด แต่ฝันสลายเมื่อน้องสาวดันหายตัวไปในวันงานผีตาโขน พร้อมกับการปรากฏตัวของศพปริศนาที่ถูก ‘เย็บปาก’ มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาต้องเลือกว่าจะก้มหน้ายอมรับศรัทธาของหมู่บ้าน หรือจะเสี่ยงตายเพื่อขุดคุ้ยความจริงที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากนั้น

เดินออกจากโรงมาแล้วเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ… คือต้องบอกก่อนว่าตอนแรกกะจะเข้าไปดู ตาโขน The Cursed Mask แบบปล่อยใจ หวังจะเห็นผีตุ้งแช่ตามสูตรหนังผีไทยทั่วไป แต่สิ่งที่ได้กลับมามันหนักกว่านั้นเยอะ มันไม่ใช่ความกลัวแบบที่กรี๊ดแล้วจบ แต่มันคือความ “หลอนลึก” ที่ค่อยๆ กัดกินความรู้สึกเราไปเรื่อยๆ ตลอดเกือบสองชั่วโมง สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำได้เจ็บแสบมากคือการเล่นกับความเงียบ ทั้งที่งานบุญหลวงควรจะเอิกเกริก เสียงดัง สนุกสนาน แต่หนังกลับเลือกโฟกัสไปที่ความเงียบงันของตัวละครน้องสาวที่หูหนวก และศพที่ถูก “ตัดปาก” มันเหมือนผู้กำกับกำลังตบหน้าเราแล้วบอกว่า ในสังคมที่ศรัทธาอยู่เหนือเหตุผลเนี่ย คนที่รู้ความจริงมักจะไม่มีสิทธิ์พูด หรือถ้าพูด… ก็อาจจะไม่มีปากไว้ให้พูดอีกต่อไป

บรรยากาศของอำเภอด่านซ้ายในเรื่องนี้มันดูแปลกตาไปหมด ไม่ใช่ภาพงานท่องเที่ยวสวยงามที่เราเห็นในข่าว แต่มันดูขลัง ดูดิบ และน่ากลัวชิบหาย ยิ่งฉากที่ต้องทำหน้ากากในที่ลับตามกฎโบราณนะ ขนลุกเลยว่ะ คือเรารู้สึกได้เลยว่าไอ้หน้ากากพวกนี้มันมี “ของ” จริงๆ ไม่ใช่แค่พร็อพประกอบฉาก ต้องชมงานภาพและโปรดักชั่นที่ Star Hunter กับ iQIYI ทุ่มทุนสร้างจริงๆ มันยกระดับหนัง Folk Horror ไทยไปอีกขั้นเลยนะ คือมันอินเตอร์แต่รสชาติยังจัดจ้านแบบไทยๆ

อีกจุดที่ทำให้อินจนน้ำตาซึมคือการแสดงของ มอสหลง อาจจะเพราะเขาเป็นคนเลยแท้ๆ ด้วยมั้ง สายตาเวลาเขามองหน้าน้องสาว หรือมองชาวบ้านที่งมงาย มันดูเจ็บปวดและอึดอัดจริงๆ มันสื่อถึงความจนตรอกของคนที่อยากหนีจากกรอบประเพณีแต่ไปไหนไม่ได้ แล้วพอมาเจอกับพลังการแสดงของ แม่นกน้อย อุไรพร ที่โผล่มาทีไรขนลุกทุกที มันยิ่งตอกย้ำความขลังเข้าไปอีก สรุปเลยนะ ใครที่ชอบหนังแนวความเชื่อ หรืออยากเห็นมุมมืดของประเพณีที่เราคุ้นเคย เรื่องนี้ต้องดู มันทำให้เรากลับมาตั้งคำถามกับตัวเองหนักมากว่า สิ่งที่เรากราบไหว้อยู่ทุกวันนี้ มันคือที่พึ่งทางใจ หรือมันคือโซ่ตรวนที่ล่ามเราไว้ไม่ให้ไปไหนกันแน่…